Tuesday, October 15, 2013

“สีลม – สาทร” ชีวิตบนโลกคู่ขนาน // ตอนที่ 2: สุสานสมาคมจีนแต้จิ๋ว


สีลม สาทรชีวิตบนโลกคู่ขนาน
ตอนที่ 2: สุสานสมาคมจีนแต้จิ๋ว
 
ต่อจากตอนที่แล้ว เราเดินข้ามฝั่งไปซอย สาทร11 ต่อรถสองแถวไปแถวถนนจันทร์ คราวนี้เราเดินทางอย่างไม่มีจุดหมายไปเรื่อยๆ จนพบซุ้มประตูแบบจีนขนาดใหญ่ พร้อมป้ายขนาดใหญ่ว่า สมาคมจีนแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย แต่เราไม่สนใจที่จะเข้าไป กลับเลือกเดินโอ้มรั้วกำแพงที่แสนยาวไปอีกทาง เราเดินเท้าไปเรื่อยๆผ่านตึกแถวซึ่งผู้อาศัยส่วนใหญ่หากดูจากภายนอกจะคล้ายชาวอินเดีย บรรยากาศโดยรอบนอกจากกำแพงสูงของสมาคมจีนแต้จิ๋วแล้ว เราก็มองเห็นตึกหรูระฟ้าอยู่ไกลๆ แต่ที่เราเห็นไม่ชินตานักคือเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ และหลังคาวัดที่ซ้อนลดหลั่นเป็นชั้นๆ ดูเหมือนไม่ใช้วัดพุทธไทยโดยทั่วไป ยิ่งทำให้เราสนใจว่าปลายทางข้างหน้าคืออะไรกันแน่ และเราก็เดินต่อไปผ่านทางแคบๆที่รถยนต์ยังอุตสาห์เข้ามาได้ เรารอให้รถออกมาก่อนถึงเดินเข้าไปได้ และปลายทางนั้นทำให้เราพบคำตอบ โดยแยกซ้ายมือนั้นเราพบอาคารหินอ่อนทั้งหลังพร้อมป้ายชื่อ วัดวิษณุ เป็นวัดของศาสนาพรามหมณ์-ฮินดู ศูนย์รวมของชาวไทย เชื้อสายอินเดีย ในขณะที่แยกขวามือเราพบป้ายชื่อ วัดปรกยานนาวาพร้อมกับป้ายข้อมูลจึงทำให้รู้ว่า นี่เป็นวัดของชาวมอญ และยอดเจดีย์ที่เราเห็นก็เป็นของวัดนี้นี่เอง



เราตัดสินใจเดินทางต่อไป เดินข้ามคลองที่ขนาบข้างไปด้วยหลุมฝั่งศพ บนป้ายนั้นเขียนเป็นภาษาจีน เราเดินผ่านไปสักระยะหนึ่ง แต่เหมือนไม่รู้มีอะไรดลใจ เราเดินทางกลับไป พร้อมเดินผ่านเข้าไปในประตูที่ชื่อว่า สุสาน สมาคมจีนแต้จิ๋ว ซึ่งอยู่ข้างๆกับวัดปรกนั่นเอง

เราตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เข้ามาที่นี่ สองข้างทางขนาบด้วยต้นไทรที่เต็มไปด้วยรากอากาศ ด้านหนึ่งเป็นหลุมศพเรียงรายที่ปล่อยให้หญ้าขึ้นรกคลื้ม ดูเหมือนบรรยากาศชวนสยอง แต่อีกด้านหนึ่งเป็นเนินหญ้าขนาดใหญ่สีเขียวที่ถูกดูแลตัดแต่งเป็นอย่างดี เบื้องหน้ามีอุปกรณ์ออกกำลังกาย ป้ายบอกว่านี่คือชมรมวิ่ง ชมรมฟิตเนส ชมรมหมากรุก ลานบาสเก็ตบอล สนามเด็กเล่น ห้องน้ำ อาคารอเนกประสงค์ และที่เด่นที่สุดคงเป็นเจดีย์จีนกลางน้ำ ทั้งหมดนี้รายล้อมด้วยหลุมฝั่งศพ และมีฉากหลังเป็นตึกสูงระฟ้าแถบพื้นที่สีลม เห็นดูขัดแย้งกัน แต่สวยงามอย่างบอกไม่ถูก

สุสานจีนแต้จิ๋วนี้ ดูมีชีวิตชีวา แตกต่างกับที่ สีลมซอย9 อย่างสิ้นเชิง มีผู้คนมาวิ่งออกกำลังกาย บ้างก็เล่นเครื่องเล่นฟิตเนสเหล็กซึ่งประดิษฐ์เอง บ้างก็เล่นห่วงฮูลาฮูป อีกทั้งเด็กๆที่ตั้งใจฝึกซ้อมเทควันโด ในขณะที่ก็ยังคงมีคนแวะเวียนเข้ามาติดต่อคุณลุงสัปเหร่อที่สำนักงานสุสานอย่างไม่ขาดสาย (ทราบมาภายหลังว่าปัจจุบันไม่รับศพใหม่แล้ว มีแต่ติดต่อย้ายออก)

และเราก็เดินจากที่นี่ไปด้วยความประทับใจ กับวิวที่แปลกตา และวิธีการบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นที่สาธารณะอย่างสร้างสรรค์ โดยเราทราบข้อมูลภายหลังว่าเนินหญ้าสีเขียวสวยๆนั้น คือ หลุมศพของผู้ไร้ญาติที่มาฝั่งอยู่รวมกัน !!!

(ภาพในกล้องหายโดยไม่ทราบสาเหตุ)
 (จริงๆไม่ได้ถ่ายไว้ พอดีแบตมันหมด)



โปรดติดตามตอนต่อไป // ตอนที่ 3: สุสานร้างวัดดอน และบทสรุป

No comments:

Post a Comment